เย็นวันอังคารที่ 23 มีนาคม 2564 ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าวต่างประเทศทุกสำนักมีรายงานข่าวด่วนเรื่องเรือบรรทุกสินค้าลำยักษ์ลำเรือเอียงติดอยู่กับตลิ่งของคลองสุเอซ
คลองสุเอซในประเทศอียิปต์แห่งนี้เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญที่สุด 1 ใน 2 เส้นของโลกเชื่อมระหว่างทะเลแดงกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อีกคลองหนึ่งคือคลองปานามาซึ่งเชื่อมอเมริกาใต้ เหนือ และกลางเข้ากับส่วนอื่น ๆ ของโลก
เรือสินค้าประมาณ12% ทั่วโลกจะต้องใช้ทางนี้เป็นทางผ่านเข้า หรือออกทวีปยุโรป โดยปกติจะมีเรือสินค้าใหญ่เล็กวิ่งผ่านช่องแคบคลองสุเอซแห่งนี้ประมาณวันละ 50 ลำ ทั้งนี้ยังไม่นับเรือบรรทุกน้ำมันและเรือสำราญ ซึ่งอาจมีปริมาณลดลงไปมากในช่วงสถานการณ์โควิดปัจจุบัน
เรือสินค้าดังกล่าวชื่อ EVER GIVEN หนึ่งในเรือที่ได้ชื่อ่ว่าใหญ่ที่สุดในโลกด้วยระวางบรรทุก 220,000 ตัน ยาว 1,312 ฟุต และกว้างประมาณ 200 ฟุต และเมื่อเรือตะแคงข้างเกยขึ้นไปบนฝั่งทางด้านเหนือของคลองมันก็เพียงพอที่จะปิดกั้นช่องทางผ่านคลองทั้งช่องทางจนเรือลำอื่นไม่สามารถผ่านได้
เรือลำนี้มาจากเซี่ยงไฮ้มุ่งหน้าไปรอตเตอร์ดัม และเมืองท่ายุโรปอื่น ๆ
เป็นผลทำให้เรือบรรทุกน้ำมันหลายร้อยลำที่จอดลอยลำเพื่อรอผ่านช่องแคบนี้คงต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ทำให้ราคาน้ำมันขึ้นทันที 4% ภายในคืนนั้นเอง
สาเหตุของการเกยฝั่งครั้งนี้สันนิษฐานว่าเกิดจากพายุทรายบนชายฝั่งอียิปต์ใกล้กับจุดเกิดเหตุทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี ผู้เชี่ยวชาญยังคงให้น้ำหนักของสาเหตุไปยังเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตัวหลักของเรือที่ดับลงทำให้ไม่สามารถควบคุมพวงมาลัย ทิศทางและใบจักรยักษ์ก็หยุดทำงานเรือจึงวิ่งด้วยแรงเฉี่อยผสานกับน้ำหนักบรรทุกมหาศาลพุ่งเข้าชนตลิ่งในที่สุด
จนบัดนี้ยังไม่มีรายงานลูกเรือ รวมทั่งบุคคลที่ 3 เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จากหน่วนงานรับผิดชอบดูแลคลองสุเซของอียิปต์ยืนยันว่ายังคงต้องพยายามกู้เรือให้กลับเข้าร่องน้ำตามเดิมให้ได้ แต่ถึงขณะนี้ความพยายามดังกล่าวยังคงไร้ผล คาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าที่จะกู้เจ้ายักษ์ใหญ่นี้ออกมาได้ ดังนั้นเรือสินค้าจำนวนมากจึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางหลังจากที่รอมาแล้ว 24 ชั่วโมง และปฏิบัติการดูจะยังไม่เป็นผลแต่อย่างใด
Bernhard Schulte Ship Management ซึ่งเป็นบริษัทรับจัดการเรือของสายเรือ Evergreen ยืนยันว่าลูกเรือทุกคนปลอดภัยดี แต่ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บอื่นหรือมลภาวะที่เกิดตามมา
อย่างไรก็ตาม ผู้นำเข้าและส่งออกที่มีธุรกิจกับประเทศในโซนยุโรปย่อมได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน ความล่าช้าของเรือในช่วงนี้ซึ่งผู้ประกอบการไม่สามารถยอมรับได้อยู่แล้วกลับต้องมาเจอกลับสภานการณ์ที่เลวร้ายลงไปอีก คงต้องเกิดการล่าช้าเนิ่นนานกว่าที่เคยในเมื่อเส้นทางเดินเรือหลักโดนปิดกั้นอย่างนี้
.
เครดิตภาพจากเวปข่าว NBC news